บทความ
กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2018
สหภาพยุโรป
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สหราชอาณาจักรในสหภาพยุโรป การออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร หรือ เบร็กซิต ( อังกฤษ : Brexit ) เป็นที่ถกเถียงมานานในหมู่บุคคล สถาบันกฎหมาย และพรรคการเมือง ตั้งแต่ที่ สหราชอาณาจักร เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มแรกของ สหภาพยุโรป (EU) ในปี ค.ศ. 1973 ทั้งนี้ การออกจากสหภาพยุโรปของประเทศสมาชิกสามารถกระทำได้ตามมาตรา 50 แห่งสนธิสัญญาว่าด้วยสหภาพยุโรป ( สนธิสัญญาลิสบอน ) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า : "รัฐสมาชิกใด ๆ อาจตัดสินใจออกจากสหภาพตามข้อกำหนดแห่งกฎหมายของรัฐนั้น" [1] ในปี ค.ศ. 1975 การลงประชามติถูกกำหนดให้มีขึ้นในทุกประเทศสมาชิกของ ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (ECC) ซึ่งภายหลังได้พัฒนาเป็นสหภาพยุโรป การลงประชามติในครั้งนั้นได้ผลว่า ทุกประเทศสมาชิกจะยังคงเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจยุโรปต่อไป ในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2016 สหราชอาณาจักรได้ทำการลงมติสมาชิกภาพในสหภาพยุโรป โดยฝ่ายที่ต้องการให้ออกจากสหภาพยุโรปเป็นฝ่ายชนะ การลงประชามติ ค.ศ. 1975 แก้ไข ใน ค.ศ. 1975 สหราชอาณาจักรได้มีการลงประชามติว่าสหราชอาณาจักรควรอยู่ในประชาคมเศรษฐกิจยุโรปต่อหรือไม่ ในครั้งนั้นทุกพรรคการเมือ
ครีมเทียม
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
กาแฟพร้อมกับน้ำตาลซองหนึ่งและคอฟฟีเมตน้ำถุงหนึ่ง ครีมเทียม ( อังกฤษ : Non-dairy creamer, coffee whitener ) หรือบางครั้งที่เรียกกันจนติดปากว่า คอฟฟีเมต [1] [2] [3] เป็นครีมผงหรือน้ำที่ใช้ทดแทน นม หรือ ครีม เพื่อจะเติมรสชาติใน กาแฟ และเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี แล็กโทส และดังนั้นจึงถือกันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ทำจากนม แม้ว่าจะมีสาร เคซีน ซึ่งเป็น โปรตีน ที่ทำมาจากนม พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ได้ระบุคำจำกัดความของครีมเทียมไว้ว่า ประวัติ แก้ไข ครีมผง (ไม่เทียม) เริ่มมีการขายเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1952 เรียกว่า พรีม ซึ่งทำมาจากครีมและน้ำตาลอบแห้ง ครีมผงนี้ละลายน้ำไม่ค่อยได้เพราะเหตุที่มีโปรตีนนม หกปีต่อมาในปี ค.ศ. 1958 บริษัทคาร์เนชันได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถละลายในน้ำร้อนได้ง่ายเพราะว่า มีการทดแทนไขมันนมด้วยไขมันพืช และลดระดับการใช้โปรตีนนมออกไป เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายใช้ชื่อการค้าว่า คอฟฟีเมต ( อังกฤษ : Coffee-Mate ) ตราสินค้า คาร์เนชั่น คอฟฟีเมต เริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสินค้าเพื่อใช้ทดแทนนมสำหรับใส่ในกาแฟโดยเฉพาะ เพื่อ
อาเซียน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
อาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East AsianNations ประกอบด้วย 10 ประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์ของ การก่อตั้งอาเซียน คือ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประเทศในภูมิภาค ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพเสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมือง สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมการกินดีอยู่ดีของประชาชนบนพื้นฐานของความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศสมาชิก ยิ่งใกล้ AEC หรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เข้ามาทุกที แต่ละประเทศ ก็จะมีความสำคัญที่แตกต่างกัน ลองมาทำความรู้จักกับ 10 ประเทศอาเซียน 1.บรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam) บรูไน เป็นประเทศที่ตลาดเปิดแบบเสรี ภายใต้การดูแลของรัฐ รายได้หลักของประเทศ จะมาจากน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ และนับเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อันดับที่ 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จากสิงคโปร์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา โดยเป็นสินค้าประเภท เครื่องจักรอุตสาหกรรม รถยนต์ เครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และสินค้าเกษตร เมืองหลวง : บันดาร์ เสรี เบกาวัน ภาษา : ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราช