ทำยังไงให้เข้าใจการเรียนเยอรมัน

เทคนิคเรียนภาษาเยอรมันให้อ่านออก เขียนได้ หลายคนอยากรู้ว่าเก๋เรียนภาษาเยอรมันยังไง คือจริงๆก็ไม่ได้พูดเก่งนะคะ แค่พอเอาตัวรอดและเรียนจบเท่านั้นเอง ศัพท์แสงอะไรก็มีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และในสายงานที่เรียนมา ถ้าให้ไปเจอศัพท์แพทย์ ศัพท์กฏหมายนี่ เก๋ก็เดี้ยงเหมือนกัน

blog นี้เก๋มาแนะนำการเรียนภาษาเยอรมันของเก๋และที่สังเกตจากลูกสาววัย 3 ขวบกว่าๆว่ามีวิธียังไงคร่าวๆค่ะ 

ขั้นแรก ฝึกฟัง แล้วพูดตาม

เทคนิคอันหนึ่งของการเรียนภาษา (ไม่เฉพาะภาษาเยอรมัน) คือ การฟังเสียง และพูดเลียนเสียงก่อน ยังไม่ต้องรู้ความหมายก็ได้ ให้คำมันเข้าปาก ให้กรามขยับ ให้คำมันกระทบเหงือก ให้สมองกระเทือน แล้วเดี๋ยวมันจะค่อยๆซึมซับเอง แล้วค่อยมาหาความหมายแล้วจดจำค่ะ พูดๆซ้ำๆ เขียนทุกๆวัน คุณไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ ขอมีเพียงพรแสวง ก็สามารถที่จะพูดภาษาต่างประเทศได้ค่ะ 

การจะได้ภาษาใหม่ ถ้าเอาแบบธรรมชาติแบบเริ่มจากศูนย์ เหมือนเด็กเล็กๆและเอาไปใช้งานได้จริง จะเริ่มจาก 

ฟัง -----> พูด --------> อ่าน -------->เขียน

เทคนิคนี้เก๋ได้มาจากการสอนลูกสาวอายุ 3 ขวบกว่าค่ะ พ่อเขาพูดภาษาเยอรมัน เก๋พูดไทย เขาฟัง มองปากพ่อ แม่ แล้วเขาพูดตาม พูดซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก 

เก๋เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆนะคะ ลูกเก๋เริ่มเรียกป่าป้า ได้คำแรก ตอนประมาณอายุ 10 เดือน พูดคำว่าม่าม้าตอนอายุ 1 ปี ต่อมาอีก 1.5 ปีได้คำว่า หม่ำๆ ข้าวๆๆ คือกว่าจะได้แต่ละคำ เดือนหนึ่ง ได้ 2-3 คำ เท่านั้น ด้วยสมองของเขา ความพร้อมของร่างกาย และประสบการณ์ จนตอนนี้ภาษาไทยก็คล่อง ภาษาเยอรมันก็ลื่น เท่าที่เด็ก 3.6 ขวบจะพูดได้ค่ะ 

บางคำพูดได้ แต่เขายังไม่รู้เลยว่าแปลว่าอะไร แต่พูดออกมาชัดเวอร์อ่ะ คนเยอรมันบอกว่า เขาพูดภาษาเยอรมันสำเนียงแบบเด็กเยอรมันค่ะ แต่เราเป็นผู้ใหญ่ (อย่างน้อยคนที่อ่านเวปไซต์นี้น่าจะอายุเกิน 18 ปี ++ นะคะ) เดือนนึงน่าจะได้เป็นประโยค + คำมากกว่า 100 คำ/ประโยค หรือมากกว่านะคะ


ต่อมา ....เชื่อมกับทักษะที่มี กับสิ่งที่ชอบ 

แต่ละคนจะมีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไม่เหมือนกัน บางคนถนัดฟังเสียง บางคนชอบดูหนัง บางคนชอบอ่าน   ชอบท่อง ก็เลือกมาสักทักษะหนึ่งแล้วก็ทำอย่างสม่ำเสมอ ยังไงได้แน่นอนค่ะ 

เทคนิคที่เก๋เคยทำคือ ใช้โพสต์อิท เขียนประโยคและคำอ่านแปะไว้ตามที่ต่างๆที่เป็นที่ส่วนตัวของเรา เช่น ในห้อง กระเป๋า รถยนต์ พอถึงช่วงที่อยู่ตรงนั้น ก็ท่อง ลองอ่าน ลองพูด อยู่ในห้องน้ำก็พูดคำศัพท์ พวกอุปกรณ์ในห้องน้ำ การขี้ ฉี่ บ้วนปาก อาบน้ำ อะไรก็ว่าไป อยู่ในห้องครัว ก็อุปกรณ์ในครัว ผัด แกง ปิ้งขนมปัง ต้ม อะไรก็ว่าไปค่ะ อยู่ในรถ ก็กำลังเปิดปิดรถ สตาร์ทรถ ถอยรถ 

ทั้งหมดคือหาศัพท์เป็นภาษาเยอรมันก่อน แล้วค่อยแปะ แล้วท่องให้คล่องๆปากค่ะ ลองประยุกต์วิธีของตัวเองนะคะ เริ่มต้นของเก๋ คือเก๋จะฟัง พูด แล้วท่องก่อน ต่อมาก็อ่าน และเขียน เป็นลำดับสุดท้าย เขียนนี่ยากสุดสำหรับเก๋แล้วค่ะ ลองดูนะคะ
  
เก๋เคยได้คุยกับครูเคท เนตรปรียา ชุมไชโย เนื่องจากเรียนไทยโค้ชจากสมาคมการโค้ชวิถีไทยด้วยกัน  จำได้ประโยคนึงครูเคทเล่าให้ฟังว่า จากที่สอนคนเรียนภาษาอังกฤษมาหลายพันคน  พบว่า คนไทยไม่ใช่เรียนภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะไม่ฉลาด แต่เพราะจิตใต้สำนึก  คิดว่าภาษาอังกฤษมันยาก  ฉันพูดไม่ได้หรอก ฉันกลัวฝรั่ง คำนี้มันฝังอยู่ในหัว เวลาที่เรียนภาษาอังกฤษเลยทำให้ภาษาไม่พัฒนา ทั้งๆที่ภาษาไทยเรายากกว่ามาก แต่เรายังเรียนได้ 
(ใครว่าภาษาไทยไม่ยาก ลองกลับไปเรียนไวยกรณ์ไทย อย่างยากเลยนะคะ)

อีกข้อหนึ่ง ทำไมเด็กๆเล็กๆอนุบาลถึงเรียนได้ 2 ภาษา 3 ภาษา ก็เขาไม่รู้นะซิคะว่า ยากคืออะไร แม่ให้ท่อง ครูให้เรียน พ่อพูดภาษานึง แม่พูดภาษานึง  เขาอยากคุยกับพ่อกับแม่ได้ เขาก็เลยพยายามเลียนแบบ เลียนเสียง เลียนพฤติกรรมของพ่อแม่ เราเลยมองว่าเด็กเก่ง 

คิดง่ายๆ เอาจริงๆนะ เด็กอนุบาลกับคนโตๆแบบเรา มีหนังสือมาให้เล่มนึง หนังให้ดูเรื่องนึง  แล้วให้แข่งกันจำ แข่งกันท่อง ในเวลา 1 เดือน  เอ้า..... ให้ปีนึงเลย   คุณว่าใครจะชนะ.....  คิดซิคิด...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงงานขนมตะโก้

ภาษาเยอรมัน/คำศัพท์/สัตว์

7ขนมหวานยอดฮิตในเยอรมัน!!